สอนใช้งาน Streaming แอปเทรดหุ้นยอดนิยม มือใหม่ทำตามได้ !

หลังจากศึกษาเกี่ยวกับตลาดหุ้นมาสักพัก ทุกคนน่าจะอยากลงสนามจริงกันแล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่ว่าเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์หุ้นแล้วทำไงต่อนะ ต้องเทรดยังไง กดปุ่มไหนกันล่ะเนี่ย? บทความนี้ คุณน้าจะมาสอนใช้ Streaming แอปเทรดหุ้นยอดนิยมสำหรับนักลงทุนหุ้นทุกคนกันค่ะ รับรองว่า มือใหม่ทำตามได้แน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันได้เลยค่ะ

เทรดหุ้นยังไง ? 

อันดับแรก เรามาทบทวนขั้นตอนการเทรดหุ้นกันก่อนค่ะ ซึ่งคุณน้าก็ได้สรุปสั้น ๆ มาให้ทุกคนเข้าใจดังด้านล่างนี้ แต่หากต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับตลาดหุ้นทั้งหมดแบบอ่านจบเทรดเป็นแน่นอนก็สามารถกดลิงก์ด้านล่างได้เลยค่ะ

1. ศึกษาเกี่ยวกับตลาดหุ้น
2. เปิดบัญชี
3. เลือกหุ้นที่สนใจ วิเคราะห์ให้ดี
4. ทำการซื้อหุ้น (ขั้นต่ำ 100 หุ้น)
5. ขายหุ้น เมื่อเราต้องการทำกำไร

แอปเทรดหุ้น คืออะไร ?

แอปเทรดหุ้น คือ แอปพลิเคชันที่รองรับการซื้อขายหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการซื้อขายหุ้นได้ตลอดเวลาเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ตค่ะ ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวอาจจะไม่ใช่หรือใช่โบรกเกอร์ก็ได้ เนื่องจากทำหน้าที่เป็นเพียงช่องทางในการซื้อขายเท่านั้น หากให้เปรียบเทียบก็เหมือนแพลตฟอร์มที่ใช้เทรด Forex อย่าง MetaTrader หรือ cTrader ค่ะ แต่หากยังนึกไม่ออกจริง ๆ มันก็คือตลาดที่อนุญาตให้ร้านค้ามาวางสินค้านั่นเองค่ะ

ดังนั้น แอปเทรดหุ้นแต่ละอันจึงรองรับโบรกเกอร์ไม่เหมือนกัน บางแอปก็รองรับโบรกเกอร์ใหญ่ ๆ จำนวนมาก แต่บางแอปก็สงวนไว้เฉพาะลูกค้าของโบรกเกอร์หุ้นนั้น ๆ เท่านั้นค่ะ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องตรวจสอบก่อนว่า แอปเทรดหุ้นไหนรองรับโบรกเกอร์ไหนบ้าง จากนั้นจึงค่อยเปิดบัญชี หรือที่เรียกว่า เปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ ก่อนใช้งานแอปเทรดหุ้นค่ะ

แอปเทรดหุ้นยอดนิยม 2023

• Streaming
• eFin Trade Plus
• SET
• Settrade App
• Aspen Bualung Trade
• KS Super Stock
• FINNOMENA App

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ทำความรู้จัก Streaming คืออะไร ?

Streaming หรือ Settrade Streaming คือ หนึ่งในแอปเทรดหุ้นชั้นนำที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเป็นแอปพลิเคชันสำหรับซื้อขายหุ้นและอนุพันธ์ที่พัฒนาโดยบริษัท เซ็ทเทรด ดอท คอม จำกัด (Settrade) บริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ค่ะ

เนื่องจาก Settrade มองเห็นว่า จำนวนผู้ใช้งานที่ซื้อขายหุ้นผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมากเรื่อย ๆ จึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาพัฒนาระบบซื้อขายทางอินเทอร์เน็ตจนเกิดเป็นแอปพลิเคชัน Streaming ขึ้นมาค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้แอปเทรดหุ้นนี้ได้รับความนิยม คือ ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การเทรดหุ้นกลายเป็นเรื่องง่ายค่ะ

โบรกเกอร์หุ้นที่ Streaming รองรับ

Streaming รองรับโบรกเกอร์หุ้นต่าง ๆ มากถึง 36 ราย

เครื่องมือใน Streaming บอกอะไรบ้าง ?

Streaming มีเครื่องมือหรืออะไรที่นักลงทุนควรรู้บ้าง เราไปดูกันค่ะ

1. Realtime

เมื่อเข้าสู่ Streaming จะพบกับ Realtime เป็นหน้าแรก ซึ่งหน้าดังกล่าวจะแสดงข้อมูลราคาหุ้นต่าง ๆ ที่เคลื่อนไหวในขณะนั้น แยกออกเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้ค่ะ

1.1 Sum

Sum ถือเป็นหมวดที่มีการสรุปภาพรวมตลาดหุ้นไทย ซึ่งหลัก ๆ จะเป็นดัชนี SET Index เพื่อสะท้อนการเคลื่อนไหวทั้งหมดในตลาดเปรียบเทียบวันนี้กับวันก่อนหน้าค่ะ โดยข้อมูลสำคัญ ๆ ที่เราควรติดตามมีดังนี้ค่ะ

• มูลค่าตลาดรวมวันนี้
• ความเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นในตลาด โดยสีเขียว หมายถึง จำนวนหุ้นที่มีราคาการซื้อขายสูงกว่าเดิม, สีเหลือง หมายถึง จำนวนหุ้นที่มีราคาการซื้อขายเท่าเดิม และสีแดง หมายถึง จำนวนหุ้นที่มีราคาการซื้อขายต่ำกว่าเดิม
• ราคาสูงสุดและต่ำสุดของวัน บวกหรือลบกี่จุด และคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์
• ปริมาณการซื้อขายหุ้น
• กราฟความเคลื่อนไหว

1.2 Watch

Watch ถือเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนใช้ติดตามหุ้นที่ตัวเองสนใจ โดยสามารถเลือกหุ้นได้ถึง 20 ตัว ทั้งหมด 5 กลุ่ม รวมเป็น 100 ตัวค่ะ โดยมีการแสดงข้อมูลคร่าว ๆ ดังนี้

• Last : ราคาล่าสุด
• Chg : ส่วนต่างราคาที่เปลี่ยนแปลง
• %Chg : เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ เรายังสามารถดูหุ้นในตลาดที่เข้าเกณฑ์ต่าง ๆ ได้ด้วยค่ะ เช่น

• Most Active Value : หุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
• Most Active Volum : หุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด
• Top Gainer : หุ้นที่บวกสูงสุด
• Top Loser : หุ้นที่ลบสูงสุด
• Top Swing : หุ้นที่เปลี่ยนแปลงมากที่สุด
• Sector Index  : หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม

1.3 Quote

Quote เป็นหมวดที่จะทำให้เราสามารถค้นหาข้อมูลหุ้นที่เราสนใจได้แบบละเอียด ซึ่งจะแสดงข้อมูลที่สำคัญต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ

• ราคาล่าสุด
• Volume : ปริมาณการซื้อขายหุ้น
• Value : มูลค่าการซื้อขายหุ้น
• High : ราคาซื้อขายสูงสุด
• Ceiling : ราคาซื้อขายที่สามารถขึ้นไปได้สูงสุด (บวกได้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดวันก่อนหน้า)
• Low : ราคาซื้อขายต่ำสุด
• Floor : ราคาซื้อขายที่สามารถลงไปได้ต่ำสุด (ลบได้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดวันก่อนหน้า)
• Proj.Close : ราคาที่คาดว่าจะเป็นราคาปิด
• Proj.Value : จำนวนที่คาดว่าจะเกิดการจับคู่ตอนตลาดเปิด
• Average : ราคาหุ้นโดยเฉลี่ยของวัน
• 52W High : ราคาสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์
• 52W Low : ราคาต่ำสุดในรอบ 52 สัปดาห์
• EPS : กำไรต่อหุ้น
• YIELD : อัตราผลตอบแทน
• P/E : อัตราส่วนกำไรต่อหุ้น
• P/BV : อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น

1.4 Bids

Bids เป็นหมวดหมู่ที่เราใช้ดูราคาเสนอซื้อและขายหุ้นที่สนใจแบบภาพรวม

1.5 Ticker

Ticker เป็นหมวดหมู่ที่เราใช้ดูรายการซื้อขายหุ้นที่ถูกจับคู่ในตลาด เพื่อดูว่านักลงทุนกำลังซื้อขายหุ้นตัวไหนอยู่ค่ะ

2. Buy/Sell

Buy/Sell เป็นหน้าที่ใช้ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น ซึ่งคุณน้าจะพาไปดูวิธีการซื้อขายหุ้นอีกครั้งด้านล่างค่ะ

3. Portfolio

Portfolio เป็นส่วนที่นักลงทุนใช้ติดตามหุ้นในพอร์ตการลงทุนของตัวเอง ซึ่งจะมีการแสดงกำไร/ขาดทุนของหุ้นในพอร์ต รวมถึงข้อมูลสำคัญ ๆ ดังนี้ค่ะ

3.1 Portfolio

Portfolio เป็นหมวดหมู่ที่ใช้แสดงหุ้นในพอร์ตของเรา ดังนี้

• Symbol : ชื่อหุ้น
• Avail Vol : จำนวนหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ต
• Avg : ราคาต้นทุนเฉลี่ย
• Market : ราคาตลาด ณ ขณะนั้น
• %U.PL : เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทน
• Total : ผลรวมกำไร/ ขาดทุนทั้งหมดในพอร์ต

3.2 Order

Order เป็นหมวดหมู่ที่ใช้แสดงประวัติการซื้อขายหุ้น ซึ่งมีสถานะที่เราควรรู้ คือ

• Waiting : ยังไม่ถึงกำหนดที่จะส่งเข้าระบบ
• Activated : คำสั่งถูกส่งเข้าระบบเรียบร้อยแล้ว
• Rejected : ไม่สามารถส่งคำสั่งได้ เนื่องจากพบความผิดปกติ

3.3 Deal Sum

Deal Sum ถือเป็นหมวดหมู่ที่นักลงทุนใช้ดูรายละเอียดการซื้อขายหุ้นรายตัวในวันที่ทำรายการ ประกอบด้วย

• Symbol : ชื่อหุ้น
• Side : ประเภทคำสั่ง ได้แก่ B ซื้อ และ S ขาย
• Volume : ปริมาณการซื้อขาย
• Buy/Sell Amt : มูลค่าการซื้อขาย
• VAT & Fee : ค่าธรรมเนียมการซื้อขายและภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งสามารถคลิกดูเพิ่มเติมได้จากแถวของหุ้นตัวนั้น ๆ ค่ะ

4. My Menu

My Menu เป็นส่วนที่นักลงทุนสามารถใช้งานฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ได้ เช่น

• DRX : ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศได้
• DCA Order : ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการซื้อหุ้นได้แบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (DCA)
• Stock Screener : ฟีเจอร์ที่ช่วยค้นหาหุ้นที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณได้
• Odd Lot : การซื้อขายเศษหุ้น

รวมวิธีใช้งาน Streaming ทุกขั้นตอน มือใหม่ทำตามได้ !

ต่อไปนี้ คุณน้าจะมาสอนวิธีการใช้งาน Streaming ในแต่ละขั้นตอนกันนะคะ รับรองว่า นักลงทุนมือใหม่สามารถทำตามได้อย่างแน่นอนค่ะ

วิธีสมัคร Streaming

ทุกคนสามารถสมัครเพื่อเปิดบัญชี Streaming ได้ง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้ค่ะ

1. คลิก สมัครใช้บริการ (Open Account)
2. เลือกโบรกเกอร์หุ้นที่ต้องการ จากนั้นกรอกข้อมูลและทำตามขั้นตอนที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เพราะแต่ละโบรกเกอร์จะมีขั้นตอนไม่เหมือนกันค่ะ
3. รอโบรกเกอร์อนุมัติและติดต่อกลับค่ะ

วิธี Login เข้าสู่ระบบ Streaming

หลังจากมีบัญชี Streaming แล้ว เรามาดูวิธี Login เพื่อเข้าใช้งานกันค่ะ

1. เปิดแอปหรือเว็บไซต์ Streaming เพื่อเข้าสู่ระบบ
2. เลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชีการลงทุนจากรายชื่อที่ Streaming มีให้บริการ
3. กรอก Username 6 หลัก
4. กรอก Password ที่ตัวเองตั้งค่าไว้ จากนั้นกด Login

วิธีฝากถอนเงิน Streaming

ก่อนที่จะเริ่มซื้อขายหุ้น เราก็ต้องเติมเงินกันก่อนใช่มั้ยล่ะคะ ดังนั้น คุณน้าจะพามาดูวิธีฝากถอนแบบง่าย ๆ ค่ะ

1. เมื่อเข้าสู่แอป Streaming แล้ว ให้เข้าไปในส่วน Services ของแต่ละโบรกเกอร์ ซึ่งจะอยู่แตกต่างกันแล้วแต่โบรกเกอร์ค่ะ เช่น บางโบรกเกอร์อาจจะอยู่ที่ไอคอนด้านล่าง แต่บางโบรกเกอร์อาจจะอยู่ที่หน้า My Menu ดังนั้น อย่าลืมศึกษาวิธีการฝากถอนที่โบรกเกอร์แนบมาให้ด้วยนะคะ
2. กด ฝาก หรือ ถอน เพื่อเริ่มต้นการทำธุรกรรม
3. เลือกบัญชีการลงทุนที่ต้องการฝากหรือถอน รวมถึงธนาคารที่ต้องการทำธุรกรรม
4. ระบุจำนวนเงินที่ต้องการฝากหรือถอน และใส่ Pin เพื่อยืนยันการทำธุรกรรม จากนั้นก็รอเงินเข้าได้เลยค่ะ

วิธีซื้อขายหุ้นผ่านแอป Streaming

หลังจากฝากเงินเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มต้นซื้อขายหุ้นกันได้เลยค่ะ โดยมีวิธีการ ดังนี้

1. เมื่อเข้าสู่แอป Streaming แล้ว ให้กดเลือกหน้า Buy/Sell เพื่อเริ่มการซื้อขาย
2. หากต้องการซื้อให้เลือก Buy จากนั้น ค้นหา Symbol หรือตัวย่อของหุ้นที่ต้องการซื้อ
3. ระบุจำนวนหุ้นที่ต้องการซื้อลงในช่อง Volume หรือจะเลือกจากตัวเลือกที่มีให้ก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วจะซื้อขายแบบเต็มหน่วย (Board Lot) หรือ 100 หุ้นค่ะ
4. เลือกประเภทคำสั่งซื้อขาย ซึ่งมีดังนี้ค่ะ
   • Limit : ระบุราคาซื้อขายเอง
   • ATO : ซื้อขายทันที ณ ราคาเปิดตลาด
   • ATC : ซื้อขายทันที ณ ราคาปิดตลาด
   • MP-MKT : เสนอซื้อหรือขายที่ราคาที่ดีสุดของวัน แต่หากระบบจับคู่ได้ไม่หมดจะทำการตัดจำนวนที่เหลือทิ้งค่ะ
   • MP-MTL : เสนอซื้อหรือขายที่ราคาที่ดีสุดของวัน แต่หากระบบจับคู่ได้ไม่หมดจะทำการส่งจำนวนที่เหลือไปรอจับคิว ณ ราคาสุดท้ายค่ะ

5. หากเลือกคำสั่งแบบ Limit จะต้องระบุราคาหุ้นที่ต้องการซื้อต่อหน่วยลงในช่อง Price ค่ะ
6. ใส่ Pin ที่ตัวเองตั้งค่าไว้เพื่อยืนยันการซื้อหุ้น จากนั้นกด Buy เพื่อซื้อหุ้นได้เลยค่ะ เพียงเท่านี้เราก็จะได้หุ้นมาเข้าพอร์ตแล้วค่ะ
7. แต่หากต้องการขายหุ้นก็ให้กดเลือก Sell และทำเหมือนกันได้เลยค่ะ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Streaming

ข้อดีและข้อเสียของแอป Streaming

ช่องทางการดาวน์โหลด Streaming

ทุกคนสามารถใช้งาน Streaming ได้ทั้งโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ โดยสามารถดาวน์โหลดได้ผ่านช่องทางต่อไปนี้ค่ะ

• Website : Streaming
• App Store : Streaming
• Google Play : Streaming

สรุป การใช้งาน Streaming

Streaming เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการซื้อขายหุ้นไทย ซึ่งได้รับการพัฒนาจาก Settrade บริษัทลูกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ค่ะ ซึ่งหากคุณสมัครเปิดพอร์ตการลงทุนกับโบรกเกอร์ที่อยู่ในลิสต์ 36 รายชื่อ ก็สามารถใช้งาน Streaming ได้เลยค่ะ

โดยการที่คุณน้าเขียนแนะนำวิธีการใช้งาน Streaming นั้น ก็เพราะว่าแอปดังกล่าวได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในวงการนักลงทุนหุ้นไทย อีกทั้ง ยังสามารถใช้งานได้กับหลากหลายโบรกเกอร์ ดังนั้น คุณน้าจึงคิดว่า คู่มือการใช้งาน Streaming ที่คุณน้านำมาฝากจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังศึกษาหาข้อมูลอยู่ไม่มากก็น้อยค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Settrade และ SET Invest Now

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge