คำศัพท์ Forex เบื้องต้นที่เทรดเดอร์มือใหม่ควรรู้ หากคุณต้องการเริ่มต้นเข้าสู่วงการ Forex อย่างมั่นใจ การเรียนรู้คำศัพท์เฉพาะในตลาดนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความเข้าใจในแต่ละคำจะช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้คุณน้าจึงได้รวบรวมคำศัพท์ Forex เบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่ พร้อมคำอธิบายและตัวอย่างประกอบ เพื่อให้เข้าใจง่ายและชัดเจนค่ะ
*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
คำศัพท์ Forex เบื้องต้นสำหรับมือใหม่
คำศัพท์ Forex | ความหมาย |
---|---|
Currency Pair | คู่สกุลเงินที่ใช้เทรด โดยการนำ 2 สกุลเงินมาคู่กัน |
Major Currency Pair | คู่สกุลเงินหลักที่นิยมเทรดมากที่สุด |
Time Frame | ช่วงเวลาที่ใช้ดูกราฟราคา เช่น 1 นาที, 5 นาที, 1 ชั่วโมง เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมราคาในช่วงที่กำหนด |
Bid/Ask | ราคาที่ตลาดพร้อมซื้อ (Bid) และราคาที่ตลาดพร้อมขาย (Ask) คู่สกุลเงิน |
Spread | ความต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของคู่สกุลเงิน เป็นต้นทุนที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ |
Pips | หน่วยวัดการเปลี่ยนแปลงราคาของคู่สกุลเงิน ส่วนใหญ่ คือจุดทศนิยมตำแหน่งที่ 4 |
Lot | ขนาดของออเดอร์ในตลาด Forex เช่น Lot มาตราฐาน คือ 1 Lot เท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินหลัก |
Balance | ยอดเงินในบัญชีเทรด ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากออเดอร์ที่ยังเปิดอยู่ |
Equity | มูลค่าคงเหลือในบัญชีเทรดที่รวมกำไรหรือขาดทุนจากออเดอร์ที่เปิดอยู่ ณ ขณะนั้น |
Margin | เงินทุนที่ต้องวางเป็นหลักประกันในการเปิดออเดอร์ |
Leverage | อัตราส่วนการยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการเทรด เช่น 1:100 หมายถึงใช้เงินทุนจริง 1 หน่วย เทรดได้ 100 หน่วย |
Position | การเปิดออเดอร์ซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ในตลาด Forex |
Stop Loss (SL) | คำสั่งปิดออเดอร์เพื่อจำกัดขาดทุนเมื่อราคาถึงจุดที่กำหนด |
Take Profit (TP) | คำสั่งปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรเมื่อราคาถึงเป้าหมาย |
Swap | ค่าธรรมเนียมหรือดอกเบี้ยที่เกิดจากการถือออเดอร์ข้ามวัน (Overnight Fee) |
Slippage | ความคลาดเคลื่อนของราคาที่เปิดหรือปิดออเดอร์จากราคาที่ตั้งใจไว้เนื่องจากความผันผวน |
Requotes | การที่โบรกเกอร์ส่งราคาที่เปลี่ยนแปลงใหม่มาให้เทรดเดอร์ยืนยันอีกครั้งก่อนเปิดออเดอร์ |
Hedging | กลยุทธ์เปิดสถานะซื้อและขายในคู่เงินเดียวกัน หรือคู่ความสัมพันธ์สูงเพื่อป้องกันความเสี่ยง |
IB Forex | ตัวแทนผู้แนะนำลูกค้าให้เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ และได้รับค่าคอมมิชชัน |
Rebate | เงินคืนส่วนหนึ่งจากค่าคอมมิชชันหรือสเปรดที่โบรกเกอร์จ่ายให้เทรดเดอร์หรือ IB |
Break Out | การที่ราคาทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับสำคัญอย่างมีนัยสำคัญและมักตามด้วยการเคลื่อนไหวที่รุนแรง |
Overbought | สภาวะที่ราคาสูงเกินไป และคาดว่าจะมีแรงขายทำให้ราคาปรับตัวลดลง |
Oversold | สภาวะที่ราคาต่ำเกินไป และคาดว่าจะมีแรงซื้อทำให้ราคาปรับตัวขึ้น |
ติดดอย | สถานะที่เทรดเดอร์ซื้อสินทรัพย์ในราคาที่สูง แต่ราคากลับปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว |
Currency Pair หรือ คู่เงิน คืออะไร?

Currency Pair หรือ คู่เงิน คือ การจับคู่ของสกุลเงินสองสกุลที่นำมาซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในตลาด Forex โดยสกุลเงินตัวแรกเรียกว่า สกุลเงินฐาน (Base Currency) และสกุลเงินตัวที่สองเรียกว่า สกุลเงินอ้างอิง (Quote Currency)
ซึ่งสัญลักษณ์ที่เห็น เช่น EUR/USD หมายถึง การนำเงินยูโรมาแลกกับเงินดอลลาร์สหรัฐนั่นเองค่ะ

Major Currency Pair คืออะไร?

Major Currency Pair หรือ คู่เงินหลัก คือ คู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีการซื้อขายอย่างกว้างขวางในตลาด Forex ถึงแม้โลกจะมีสกุลเงินหลายร้อยสกุล แต่คู่เงินบางคู่กลับเป็นที่นิยมและมีสภาพคล่องสูงสุด เนื่องจากประกอบด้วยสกุลเงินที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งและใช้กันแพร่หลายทั่วโลกค่ะ
ตัวอย่างของคู่เงินหลัก
- USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)
- EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)
- GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)
- USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)
แต่ละคู่เงินในตลาด Forex มีความผันผวนและความนิยมในการเทรดที่แตกต่างกัน หากคุณต้องการรู้จักและเลือกเทรดกับคู่เงินยอดนิยมที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของตัวเอง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
TimeFrame (TF) คืออะไร?

TimeFrame (TF) คือ กรอบเวลาหรือระยะเวลาที่เทรดเดอร์ทำการตั้งค่าไว้ เพื่อดูหรือวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟนั่นเองค่ะ
โดยทั่วไป TimeFrame มีหลายระดับตั้งแต่สั้นไปจนถึงยาว ได้แก่ นาที (M), ชั่วโมง (H), วัน (D), สัปดาห์ (W) และเดือน (MN) ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และสไตล์การเทรด เช่น เทรดเดอร์ประเภทสวิงเทรดหรือเทรดระยะกลาง มักเลือกกรอบเวลาระหว่าง 1 ชั่วโมงถึงรายวัน เพื่อจับแนวโน้มหลักของราคา ส่วนเทรดเดอร์ระยะสั้นหรือ Scalper จะใช้กรอบเวลาสั้น เช่น 1 นาที ถึง 15 นาที เพื่อทำกำไรจากความเคลื่อนไหวราคาที่รวดเร็วค่ะ

แต่ละ Time Frame มีความแตกต่างและเหมาะกับสไตล์เทรดที่ต่างกัน หากยังไม่แน่ใจว่าแบบไหนใช่สำหรับคุณ แนะนำให้อ่านบทความนี้เพื่อเลือกกรอบเวลาที่พอดีกับสไตล์และเป้าหมายเทรดของคุณ รับรองจะช่วยให้วางแผนเทรดได้แม่นยำและทำกำไรได้ดีขึ้นค่ะ!
Bid/Ask คืออะไร?

Bid คือ ราคาสูงสุดที่โบรกเกอร์เสนอซื้อสินทรัพย์ให้กับเทรดเดอร์ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอให้สำหรับการรับซื้อสินทรัพย์ ทำให้เทรดเดอร์จะได้ราคา Bid เมื่อเปิด Order Sell หรือปิด Order Buy
ในขณะที่ Ask คือ ราคาต่ำสุดที่โบรกเกอร์เสนอขายสินทรัพย์ให้กับเทรดเดอร์ ซึ่งเป็นราคาที่ตลาดหรือโบรกเกอร์เสนอให้สำหรับการขายสินทรัพย์ ทำให้เทรดเดอร์จะได้ราคา Ask เมื่อเปิด Order Buy หรือปิด Order Sell นอกจากนี้ ในบางตลาดโดยเฉพาะตลาดหุ้นมักจะเรียก Ask ว่า Offer ค่ะ

โดยปกติแล้ว ราคา Bid จะต่ำกว่าราคา Ask เสมอค่ะ และความแตกต่างระหว่างราคา Bid Ask ก็คือ ค่าสเปรด (Spread) หรือค่าธรรมเนียมที่ทางโบรกเกอร์จะเรียกเก็บ เมื่อเทรดเดอร์เริ่มเปิดปิด Order นั่นเอง สามารถอ่านปัจจัยที่ส่งผลต่อ Bid/Ask เพื่อวางแผนเทรดอย่างมีประสิทธิภาพได้ที่นี่
Spread คืออะไร?

Spread คือ ต้นทุนหรือค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายให้กับโบรกเกอร์ สำหรับการเปิดหรือปิดคำสั่งซื้อขาย ซึ่งเกิดจากส่วนต่างระหว่างราคา Ask (ราคาขาย) และราคา Bid (ราคาซื้อ) ของคู่สกุลเงินนั้น ๆ
โดยค่า Spread มี 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- สเปรดแบบคงที่ (Fixed Spread) : ค่าสเปรดที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดช่วงเวลาการเทรด
- สเปรดแบบลอยตัว (Variable Spread) : ค่าสเปรดที่แตกต่างกันตามสภาพตลาดและความผันผวน

ค่า Spread ส่งผลโดยตรงต่อกำไร-ขาดทุน และเป็นค่าธรรมเนียมหลักที่โบรกเกอร์ได้รับ การเข้าใจวิธีคำนวณและเลือกโบรกเกอร์ที่มีสเปรดเหมาะสมจึงช่วยเทรดเดอร์วางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคำนวณค่า Spread และวิธีดูสเปรดได้ที่นี่
Pips คืออะไร?

Pips คือ ตำแหน่งการเคลื่อนไหวของคู่สกุลเงินในตลาด Forex โดยทั่วไป pip จะเป็นการเคลื่อนไหวของทศนิยมตำแหน่งที่ 4 ของคู่สกุลเงินทั่วไป แต่สำหรับคู่สกุลเงินที่มี JPY ร่วมด้วยการเคลื่อนไหวของ Pip ของคู่สกุลเงินจะอยู่ในตำแหน่งที่ 2 หลังจุดทศนิยมค่ะ
ตัวอย่างการเคลื่อนที่ของ Pips
เดิมมูลค่าของคู่สกุลเงิน EUR/USD = 1.0850 ต่อมามูลค่าของคู่เงินดังกล่าวเคลื่อนไหวเป็น 1.0851 เท่ากับว่า เกิดการเคลื่อนไหว 1 pips (สังเกตจากตำแหน่งที่ 4)
การเข้าใจเรื่อง pips เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการวัดกำไร-ขาดทุน และการตั้งค่า Stop Loss หรือ Take Profit อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ ยังมีคำว่า Point ซึ่งมีความหมายใกล้เคียง แต่แตกต่างกันทางเทคนิค สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในบทความนี้
Lot คืออะไร?

Lot หรือ Lot Size คือ หน่วยวัดขนาดของออเดอร์ที่เราซื้อขาย ซึ่งเปรียบเสมือนขนาดของการลงทุน เช่น เราเปิดออเดอร์ซื้อขายจำนวน 1 Lot หมายความว่า เราซื้อขายในขนาดมาตรฐานที่กำหนดไว้
โดยทั่วไปตลาด Forex จะนิยมแบ่ง Lot Size เป็น 4 ประเภท ดังนี้
- 1 Nano Lot = 100 หน่วย
- 1 Standard Lot = 100,000 หน่วย
- 1 Mini Lot = 10,000 หน่วย
- 1 Micro Lot = 1,000 หน่วย

การเลือก Lot Size ที่เหมาะสมกับเงินทุนและความเสี่ยงสำคัญมาก เพราะถ้า Lot ใหญ่เกินไป เสี่ยงขาดทุนหนักจนล้างพอร์ต แต่ถ้าเล็กเกินไป โอกาสกำไรก็น้อยและไม่คุ้มเวลา การคำนวณ Lot ที่ถูกต้องจะช่วยให้เทรดปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อ่านเพิ่มเติมและฝึกคำนวณได้ที่นี่
Balance คืออะไร?

Balance Forex คือ ยอดเงินที่มีอยู่ในบัญชีเทรด ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ฝากเข้าไปในบัญชีรวมกับกำไรหรือขาดทุนจากสถานะที่ปิดแล้ว แต่ไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากออเดอร์ที่ยังเปิดค้างไว้ (ยังไม่ปิดสถานะ) ดังนั้น ยอด Balance จะไม่เปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ถ้ามีออเดอร์ที่ยังเปิดค้างอยู่ค่ะ
Equity

Equity คือ มูลค่าปัจจุบันของบัญชีเทรดที่รวมทั้งยอดเงินคงเหลือ (Balance) และกำไรหรือขาดทุนจากสถานะที่ยังเปิดอยู่ในขณะนั้น หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็น “เงินในบัญชีแบบเรียลไทม์” ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามผลกำไรหรือขาดทุนจากสถานะการเทรดที่กำลังเปิดอยู่ โดย Equity ช่วยบอกสถานะทางการเงินและความเสี่ยงของพอร์ตในขณะนั้น
Margin คืออะไร?

Margin หรือมาร์จิ้น คือ เงินที่เทรดเดอร์ต้องฝากไว้กับโบรกเกอร์ เพื่อใช้เป็นหลักประกันในการเปิดสถานะการซื้อขาย โดยเงินส่วนนี้จะถูกกันไว้ในบัญชีเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุน หากเทรดเดอร์ปิดสถานะการซื้อขายแล้ว ไม่ว่าจะได้กำไรหรือขาดทุน เทรดเดอร์จะได้รับเงิน Margin คืน อย่างไรก็ตาม หากขาดทุนต่อเนื่องจน Equity ต่ำกว่าระดับ Margin ที่โบรกเกอร์กำหนด จะมีการแจ้งเตือนที่เรียกว่า Margin Call นั่นเองค่ะ
Leverage คืออะไร?

Leverage คือ สิ่งที่ทำให้เทรดเดอร์มีอำนาจในการซื้อ-ขายเพิ่มมากขึ้น โดยสามารถเลือก Leverage ได้จากโบรกเกอร์ที่เราเลือกเปิดบัญชีด้วย มี Leverage ให้เลือกได้ไม่จำกัด แล้วแต่โบรกเกอร์เป็นผู้กำหนด ตัวอย่างเช่น Leverage 1:100 หมายความว่า มีเงิน $100 สามารถซื้อ-ขายได้ $10,000

Position คืออะไร?

Position คือ ตำแหน่งที่เทรดเดอร์ทำการเปิด Order หรือตำแหน่งปิดออเดอร์สัญญาสำหรับเทรด Forex โดยจะอยู่ในรูปแบบค่าตัวเลขอย่าง 562.369 หรือ 49.3942 ซึ่งความแตกต่างจะอยู่ที่โปรแกรมเทรด ที่เทรดเดอร์ใช้แบบไหนในการเปิด เวลาที่เทรดเดอร์เริ่มเทรด เราก็จะเรียกการเปิด Position ง่าย ๆ เช่น
เมื่อเทรดเดอร์ใช้คำสั่ง “ซื้อ” จะเรียกว่า Open Position Buy
เมื่อเทรดเดอร์ใช้คำสั่ง “ขาย” จะเรียกว่า Open Position Sell
Stop Loss (SL) คืออะไร?

Stop Loss (SL) คือ จุดตัดขาดทุน ที่เทรดเดอร์มักใช้เทคนิคนี้เพื่อระบุจังหวะที่มีการขาดทุนเกิดขึ้น เช่น หากเราตั้ง Stop Loss (S/l) ที่ 1.985 ซึ่งเมื่อราคาไปถึงที่ 1.985 ออเดอร์จะถูกปิดโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการขาดทุนไปมากกว่านี้ จนเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าอย่างพอร์ตระเบิด ต้องล้างพอร์ตนั่นเอง

Take Profit (TP) คืออะไร?

Take Profit (TP) คือ การตั้งจุดของการทำกำไรบนเส้นกราฟ โดยปกติมักกำหนดขึ้นมาจากจำนวน pips หรืออาจคิดแบบเป็น % ของจำนวนเงินทุนที่คุณมีก็ได้ เลือกเอาว่าจะใช้ค่าตัวเลขแบบไหน ซึ่งเมื่อกราฟวิ่งมาถึงจุด Take Profit (TP) ก็จะทำการปิดออเดอร์ และให้เราได้รับผลกำไรทันที สามารถตั้งราคาเอาไว้ล่วงหน้าได้ก่อนที่เทรดเดอร์จะเข้าสู่ตลาด หรือก่อนตลาดจะเปิด

Swap คืออะไร?

Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนจากการถือสถานะข้ามคืน (Overnight) โดยเกิดจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่ซื้อและสกุลเงินที่ขาย โดยหากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก (Positive Swap) หมายความว่าเทรดเดอร์จะได้รับค่า Swap จากโบรกเกอร์ แต่หากส่วนต่างเป็นลบ (Negative Swap) เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap ให้กับโบรกเกอร์นั่นเองค่ะ
Slippage คืออะไร?

Slippage หรือ สลิปเพจ คือ ความคลาดเคลื่อนระหว่างราคาที่เทรดเดอร์ตั้งใจจะซื้อหรือขาย กับราคาที่ได้รับจริงในตลาด Forex เกิดจากความล่าช้าในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย ราคาที่แท้จริงอาจสูงหรือต่ำกว่าที่คาดไว้ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกตลาดการเงิน โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือสภาพคล่องต่ำ
Slippage เป็นเรื่องปกติที่ต้องเข้าใจและเตรียมรับมือ เพราะอาจส่งผลทั้งบวกและลบต่อต้นทุนการเทรดของคุณ สามารถศึกษาเทคนิคและวิธีป้องกัน Slippage ได้ที่นี่
Requotes คืออะไร?

Requotes คือ การแจ้งเตือนที่โบรกเกอร์ส่งถึงเทรดเดอร์ โดย Requotes จะเป็นการแจ้งเตือนเสนอราคาใหม่จากทางโบรกเกอร์ เนื่องจากราคาที่เทรดเดอร์ต้องการทำการซื้อขายได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ทำให้เทรดเดอร์ไม่สามารถซื้อขายตามราคาที่คาดหวังไว้ได้ค่ะ
สถานการณ์ Requotes มักสร้างความรำคาญและอาจส่งผลเสียต่อผลกำไรของเทรดเดอร์ จึงควรมีวิธีป้องกันและรับมืออย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในการเทรด อ่านเทคนิคการป้องกัน Requotes ได้ที่นี่
Hedging คืออะไร?

Swap คือ ค่าธรรมเนียมหรือผลตอบแทนจากการถือสถานะข้ามคืน (Overnight) โดยเกิดจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสกุลเงินที่ซื้อและสกุลเงินที่ขาย โดยหากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยเป็นบวก (Positive Swap) หมายความว่าเทรดเดอร์จะได้รับค่า Swap จากโบรกเกอร์ แต่หากส่วนต่างเป็นลบ (Negative Swap) เทรดเดอร์จะต้องจ่ายค่า Swap ให้กับโบรกเกอร์นั่นเองค่ะ
IB Forex คืออะไร?

IB คือ ผู้แนะนำโบรกเกอร์ หรือชื่อเต็มในภาษาอังกฤษก็คือ Introducing Broker นั่นเองค่ะ
โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- IB อาจเป็นบุคคลหรือองค์กรที่มอบหมายการดำเนินการซื้อขายหรือดำเนินการด้วยตนเอง
- IB สามารถดำเนินการเป็นพันธมิตร FCM หรือเป็นดำเนินการเดี่ยวๆ หรือความร่วมมือกับโบรกเกอร์ผู้ให้บริการ
- แพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ภารกิจหลักคือการให้บริการลูกค้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการลงทุนของลูกค้า ทำให้งาน IB เป็นงานที่ขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นหลัก
Rebate คืออะไร?

Forex Rebate คือ การที่เทรดเดอร์ได้รับเงินคืนบางส่วนจากค่าธรรมเนียมการเทรด ไม่ว่าจะเป็นค่าสเปรด (Spread) ค่าคอมมิชชัน หรือค่า Swap ที่เทรดเดอร์จ่ายให้กับโบรกเกอร์ โดยสามารถคิดเป็นจำนวนเงินคงที่ต่อล็อต หรือเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งการมีระบบ Rebate จะช่วยลดต้นทุนการเทรดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้
Break Out คืออะไร?

Break Out คือ เมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ทิศทางหนึ่งอย่างรุนแรง โดยอาจทะลุแนวรับหรือแนวต้านก็ได้เช่นกัน
Overbought คืออะไร?

Overbought คือ สภาวะตลาดที่มีปริมาณการซื้อมากเกินไป หมายความว่า หากราคาเข้ามาในโซน Overbought ให้เตรียม Sell
Oversold คืออะไร?

Oversold คือ สภาวะตลาดที่มีปริมาณการขายมากเกินไป หมายความว่า หากราคาเข้าสู่โซน Oversold ให้เตรียม Buy
ซึ่งในการที่เราจะหา Overbought และ Oversold เราสามารถหาได้จากการใช้ RSI นั่นก็คือ Indicator ชนิดหนึ่งนั่นเอง
ติดดอย คืออะไร?

ติดดอย คือ การซื้อสินทรัพย์ในราคาที่สูง แต่หลังจากนั้น ราคากลับลดลงอย่างต่อเนื่อง เปรียบเสมือนคุณยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงชัน แต่แท้จริงแล้วราคากำลังร่วงลง ทำให้คุณขาดทุนหรือต้องรอให้ราคากลับขึ้นมาถึงจุดที่ซื้อ เพื่อไม่ให้ขาดทุน สถานการณ์นี้เรียกว่า “ติดดอย” หรือ “ถือของที่ติดราคาสูง” นั่นเองค่ะ
ตัวอย่าง
หากคุณซื้อ Bitcoin ที่ราคา 3,000,000 บาท แล้วราคาร่วงลงมาที่ 2,000,000 บาท ก็ถือว่าคุณ “ติดดอย” เพราะราคาที่คุณซื้อสูงกว่าราคาปัจจุบัน ทำให้ยังไม่สามารถขายได้โดยไม่ขาดทุน ต้องรอให้ราคาพุ่งขึ้นมาที่ 3,000,000 บาท อีกครั้งค่ะ
ทำความเข้าใจสาเหตุของการติดดอย ที่ทำให้ต้องถือสินทรัพย์ในราคาสูงกว่าตลาด พร้อมแนวทางป้องกันอย่างมืออาชีพ และเทคนิคการวางแผนควบคู่วินัยการเทรดที่จะช่วยลดความเสี่ยง พร้อมรับมือสถานการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ที่บทความนี้ค่ะ!

⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!
การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ
เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?
คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี

💡 คัมภีร์เริ่มต้น มือใหม่หัดเทรด
มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!
🔍 ตัวอย่างเนื้อหา มือใหม่หัดเทรดต้องรู้!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ คำศัพท์ Forex
Forex คืออะไร?
Forex คือ ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินระหว่างประเทศ ที่เปิดทำการตลอด 24 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนชอบลงทุนและเทรดทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
คู่เงิน (Currency Pair) คืออะไร?
คู่เงินคือการนำสกุลเงินสองสกุลมาซื้อขายกัน เช่น EUR/USD หมายถึงเงินยูโรแลกกับดอลลาร์สหรัฐ
Lot คืออะไรและสำคัญอย่างไร?
Lot คือหน่วยวัดขนาดของออเดอร์ในตลาด Forex เช่น 1 Standard Lot เท่ากับ 100,000 หน่วย การเลือก Lot ที่เหมาะสมช่วยควบคุมความเสี่ยงและกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Spread คืออะไร?
Spread คือส่วนต่างระหว่างราคา Bid และ Ask ซึ่งเป็นต้นทุนที่เทรดเดอร์ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์ ยิ่ง Spread ต่ำ ยิ่งประหยัดต้นทุนการเทรด
Leverage คืออะไร?
Leverage คือการยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มขนาดการเทรด ทำให้สามารถเทรดด้วยเงินมากกว่าทุนจริง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงตามมา
สรุปเกี่ยวกับคำศัพท์ Forex
การเรียนรู้คำศัพท์ Forex เบื้องต้นเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์มือใหม่เข้าใจตลาดและสามารถเทรดได้อย่างมั่นใจมากขึ้น คำศัพท์เหล่านี้เป็นพื้นฐานที่จะช่วยให้วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดได้ดี พร้อมรับมือกับความเสี่ยงและวางกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคู่สกุลเงิน (Currency Pair), ขนาดการเทรด (Lot), อัตราแลกเปลี่ยนและความผันผวน (Pips, Spread), เครื่องมือช่วยบริหารความเสี่ยง (Stop Loss, Take Profit) หรือกลไกทางการเงินที่เกี่ยวข้อง (Margin, Leverage, Swap) ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทุกเทรดเดอร์ควรรู้และเข้าใจ
คุณน้าหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการก้าวเข้าสู่ตลาด Forex และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการเทรดค่ะ!
บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ: คลิกที่นี่
คลังความรู้จากคุณน้า: คลิกอ่านได้เลยที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก: Investopedia