Indicator คืออะไร? แนะนำ 7 Indicator Forex ขวัญใจเทรดเดอร์!

Indicator คืออะไร? มีกี่ประเภท และแนะนำ Indicator Forex ยอดนิยม
Table of Contents

ในตลาดการเงินและการลงทุน การใช้ Indicator ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์หรือนักลงทุนนิยมใช้กัน เนื่องจากการใช้ Indicator จะช่วยให้การดูแนวโน้มตลาดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ ในบทความนี้คุณน้าจะพาทุกคนมารู้จักกับ Indicator คืออะไร? มีกี่ประเภท และที่สำคัญก็คือ คุณน้าขอแนะนำ Indicator Forex ยอดนิยมขวัญใจเหล่าเทรดเดอร์ ถ้าพร้อมแล้วไปหาคำตอบกันค่ะ!

*หมายเหตุ : บทความนี้เป็นเพียงบทความให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้เป็นการชักชวนเพื่อลงทุนแต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

Indicator คืออะไร?

Indicator คืออะไร?

Indicator หรืออินดิเคเตอร์ คือ ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ช่วยวิเคราะห์ตลาด โดยอาศัยการคำนวณตัวเลขจากการเคลื่อนไหวของราคา, ปริมาณการซื้อขาย หรือแม้แต่แนวโน้มของตลาดค่ะ อีกทั้งอินดิเคเตอร์แต่ละตัวยังถูกออกแบบการใช้งานให้แตกต่างกันออกไป ซึ่งจะขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของเทรดเดอร์แต่ละราย ดังนั้น ควรเลือกใช้อินดิเคเตอร์ให้ตอบโจทย์กับสไตล์การเทรดของคุณ เพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานสูงสุดนั่นเองค่ะ


ประเภทของ Indicators ในตลาด Forex มีอะไรบ้าง?

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าอินดิเคเตอร์จะถูกออกแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณน้าขอแนะนำประเภทของอินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์นิยมใช้งาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. Trend Indicators (อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้ม)

อินดิเคเตอร์ที่ช่วยบ่งชี้ถึงทิศทางของแนวโน้มในตลาด เพื่อช่วยยืนยันแนวโน้มในตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง สำหรับตัวอย่างของ Trend Indicator ยอดนิยม ได้แก่ MA, ADX และ Parabolic SAR เป็นต้น

2. Volume Indicators (อินดิเคเตอร์วัดปริมาณการซื้อขาย)

อินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดปริมาณการซื้อขาย เพื่อวิเคราะห์ว่าแต่ละสินทรัพย์มีปริมาณการซื้อขายมากน้อยแค่ไหน สำหรับตัวอย่างของ Volume Indicators ยอดนิยม ได้แก่ On-Balance Volume (OBV), Chaikin Money Flow และ Volume Weighted Average Price (VWAP) เป็นต้น

3. Volatility Indicators (อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน)

อินดิเคเตอร์ที่ช่วยวัดความผันผวนของราคาสินทรัพย์ในตลาด เพื่อช่วยยืนยันความเสี่ยง เมื่อราคาสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นั่นแสดงให้เห็นถึงความผันผวนของราคาสินทรัพย์ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น สำหรับตัวอย่างของ Volatility Indicators ยอดนิยม ได้แก่ Bollinger Bands และ Average True Range (ATR) เป็นต้น

4. Momentum Indicators (อินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัม)

อินดิเคเตอร์ที่ช่วยบ่งชี้ถึงโมเมนตัมของความเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งจะช่วยระบุสัญญาณการกลับตัว เมื่อมีปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป (Overbought-Oversold) สำหรับตัวอย่างของ Momentum Indicators ยอดนิยม ได้แก่ Moving Average Convergence Divergence (MACD), Relative Strength Index (RSI) และ Rate of Change (ROC) เป็นต้น

Trend Indicators (อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้ม)
Trend Indicators (อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้ม)
Volatility Indicators (อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน)
Volatility Indicators (อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน)


คุณน้าแนะนำ 7 Indicator Forex ยอดนิยม ขวัญใจเหล่าเทรดเดอร์

คุณน้าขอแนะนำ 7 Indicator Forex ยอดนิยมขวัญใจเหล่าเทรดเดอร์ ได้แก่ Moving Average Indicator, Bollinger Bands Indicator, RSI Indicator, MACD Indicator, CCI Indicator, Ichimoku Cloud Indicator และ VWAP Indicator โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. Moving Average Indicator

Moving Average Indicator (MA) คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในการคำนวณหาราคาในอดีต ทำให้อินดิเคเตอร์ประเภทนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเทรดเดอร์สามารถกำหนดระยะเวลาของเส้นค่าเฉลี่ย เพื่อระบุแนวโน้มของราคาสินทรัพย์ที่เทรดเดอร์ต้องการทราบ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ได้ค่ะ ทำให้ Moving Average Indicator เหมาะกับการเทรดทั้งระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว

สรุปหลักการใช้งานของ Moving Average Indicator

  • ช่วยหาจุดน่าเข้าซื้อหรือจุดน่าเทขาย
  • ช่วยระบุแนวโน้มได้ทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง
  • ช่วยระบุแนวรับ-แนวต้าน
  • ช่วยระบุความชัน (Slope)

ตัวอย่างการใช้งาน Moving Average Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้งาน Moving Average Indicator ใน TradingView โดยใช้เส้นยอดนิยมอย่าง EMA ทั้งหมด 3 เส้น สำหรับการวิเคราะห์ระยะสั้น, ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งเส้น EMA จะอยู่ที่ 7, 25 และ 99 และจากกราฟราคา XAUUSD จะเห็นได้ว่าเส้น EMA ระยะสั้น (สีชมพู) ตัดกับเส้น EMA ระยะกลางและระยะยาว (สีเหลืองและสีน้ำเงิน) นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคา XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทำให้เทรดเดอร์สามารถตั้ง Buy Order ได้ตรงจุดที่เส้น EMA ทั้ง 3 เส้น Crossover กันค่ะ

2. Bollinger Bands Indicator

Bollinger Bands Indicator (BB) คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป (Overbought-Oversold) ซึ่ง Billinger Bands จะประกอบไปด้วยเส้น 3 เส้นด้วยกัน ได้แก่ เส้น Middle, เส้น Upper และเส้น Lower โดยอินดิเคเตอร์ประเภทนี้ ถือว่าเป็นหนึ่งในอินดิเคเตอร์พื้นฐานที่เทรดเดอร์นิยมใช้งานเป็นอย่างมาก เพราะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าซื้อหรือเทขายได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ Bollinger Bands Indicator

  • ช่วยยืนยันจุดกลับตัว (Divergence) เมื่อมีปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป ซึ่งอาจจะแสดงให้เห็นถึง Panic Sell ของผู้เล่นในตลาดได้
  • ช่วยระบุปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป (Overbought-Oversold)
  • ช่วยวิเคราะห์ความผันผวนของราคาสินทรัพย์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตลาดกำลังอยู่ในแนวโน้มใด

ตัวอย่างการใช้งาน Bollinger Bands Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้งาน Bollinger Bands Indicator ใน TradingView โดยคุณน้าต้องการดูความผันผวนของกราฟราคา XAUUSD ซึ่งกำหนดให้เส้น Upper (สีแดง), เส้น Middle (สีน้ำเงิน) และเส้น Lower (สีเขียว) มาจากเส้นค่าเฉลี่ย SMA 20 วันค่ะ หากสังเกตกรอบ Bollinger Bands กรอบที่ 1 จะเห็นว่ากรอบแคบลง (สีชมพู) นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคา XAUUSD ในช่วงนั้นมีความผันผวนต่ำ 

ในขณะที่หากสังเกตกรอบ Bollinger Bands กรอบที่ 2 จะเห็นว่ากรอบกว้างขึ้น (สีส้ม) นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคา XAUUSD ในช่วงนั้นมีผันผวนสูงนั่นเอง อีกทั้ง หากสังเกตเห็นว่าแท่งเทียนอยู่เหนือเส้น Middle (สีน้ำเงิน) จะแสดงให้เห็นว่ากราฟราคา XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วยค่ะ

3. RSI Indicator

RSI Indicator ย่อมาจาก Relative Strength Index คือ อินดิเคเตอร์ที่ใช้วัดโมเมนตัมของราคา โดย RSI มีค่าตั้งแต่ 0-100 แต่โดยปกติแล้ว เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 30 และ 70 ค่ะ ซึ่งหาก RSI ต่ำกว่า 30 นั่นจะแสดงให้เห็นว่ามีปริมาณการขายที่มากจนเกินไป (Oversold) และหาก RSI มากกว่า 70 นั่นจะแสดงให้เห็นว่ามีปริมาณการซื้อที่มากจนเกินไป (Overbought) นั่นเองค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ RSI Indicator

  • ช่วยระบุปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป (Overbought-Oversold)
  • ช่วยระบุสัญญาณ Breakout เมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้ม Sideway แบบไร้ทิศทาง
  • ช่วยระบุการกลับตัวของแนวโน้มทั้งตลาดขาขึ้นและตลาดขาลง

ตัวอย่างการใช้งาน RSI Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้งาน RSI Indicator ใน TradingView โดยตั้งค่าเส้นมาตรฐานของ RSI อยู่ที่ 14 ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคา XAUUSD ณ ปัจจุบัน (เส้นสีเขียวอ่อน) ทำการ Higher High ไปเรื่อย ๆ ซึ่งอยู่ในทิศทางเดียวกันกับเส้น RSI (เส้นสีขาว) ที่ทำการ Higher High เช่นเดียวกัน นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคา XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นนั่นเอง

4. MACD Indicator

MACD ย่อมาจาก Moving Average Convergence Divergence คือ อินดิเคเตอร์ที่ถูกพัฒนามาจาก Moving Average Indicator (MA) ทำให้คุณสมบัติของ MACD Indicator จะครอบคลุมกว่า MA Indicartor ทั่วไป เพราะสามารถระบุโมเมนตัมของราคา เพื่อช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของแนวโน้มได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ MACD Indicator

  • ช่วยระบุแนวโน้มของราคาว่าอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลง
  • ช่วยระบุจุดกลับตัว (Divergence)
  • ช่วยระบุสัญญาณการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ

ตัวอย่างการใช้งาน MACD Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่าง MACD Indicator ใน TradingView โดยกำหนดให้เส้น MACD ระยะสั้นและระยะกลางอยู่ที่ EMA 12 และ EMA 26 ส่วนเส้น Signal อยู่ที่ EMA 9 ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากเส้น MACD (สีฟ้า) ตัดลงใต้เส้น Signal (สีส้ม) กราฟราคาของ XAUUSD จะอยู่ในแนวโน้มขาลง ดังนั้น คุณน้าจะเปิด Order Sell ค่ะ ในขณะที่หากเส้น MACD (สีฟ้า) ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal (สีส้ม) กราฟราคาของ XAUUSD จะอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้น คุณน้าจะเปิด Order Buy ค่ะ

5. CCI Indicator

CCI Indicator ย่อมาจาก Commodity Channel Index คือ อินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับสินค้าโภคภัณฑ์ค่ะ ซึ่งนักลงทุนหรือเทรดเดอร์จะนิยมตั้งค่า CCI Indicator ที่ Time Frame แตกต่างกัน เนื่องจากอินดิเคเตอร์ประเภทนี้ สามารถใช้ได้กับทุกสภาวะของตลาดนั่นเองค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ CCI Indicator

  • ช่วยระบุปริมาณการซื้อขายที่มากจนเกินไป (Overbought-Oversold)
  • ช่วยยืนยันแนวโน้มของราคาได้ดี
  • ช่วยระบุจุดกลับตัว (Divergence) และช่วยจับจังหวะการ Breakout ได้ดี

ตัวอย่างการใช้งาน CCI Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้งาน CCI Indicator ใน TradingView โดยจะเห็นได้ว่า CCI จะประกอบไปด้วย 3 เส้นด้วยกัน ได้แก่ เส้น +100 (สีเขียวเข้ม), เส้น 0 (เส้นประ) และเส้น -100 (สีแดง) ซึ่งหากเส้น CCI (สีฟ้า) เคลื่อนไหวเหนือเส้น +100 (สีเขียว) นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคาของ XAUUSD อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทำให้คุณน้าเลือกเปิด Order Buy (วงกลมสีเขียวอ่อน) บริเวณเส้น 0 (เส้นประ) ก่อนที่ราคาจะทำการ New High นอกจากนี้ CCI ยังช่วยให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สามารถสังเกตได้ว่าหากเส้น CCI ตัดเหนือเส้น +100 (สีเขียวเข้ม) ขึ้นไป นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคาปัจจุบันกำลังเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นใหม่ค่ะ

6. Ichimoku Cloud Indicator

Ichimoku Cloud Indicator คือ อินดิเคเตอร์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ที่ชื่นชอบแนวโน้มระยะกลางไปจนถึงระยะยาวค่ะ ซึ่งคุณสมบัติเด่น ๆ ของ Ichimoku Cloud Indicator ก็คือ สามารถระบุได้ว่า “จุดไหนควรเข้าเทรด” หรือ “จุดไหนไม่ควรเข้าเทรด” ค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ Ichimoku Cloud Indicator

  • ช่วยยืนยันแนวโน้มของราคาได้ดี
  • ช่วยระบุแนวรับ-แนวต้าน
  • ช่วยระบุสัญญาณการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ
  • ช่วยระบุโมเมนตัมของราคา

ตัวอย่างการใช้งาน Ichimoku Cloud Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้งาน Ichimoku Cloud ใน TradingView ซึ่งคุณน้าขอให้จุดสังเกตสำคัญอยู่ทั้งหมด 2 จุดด้วยกันค่ะ นั่นก็คือ จุดที่ 1. จะเห็นได้ว่าเส้น Tenkan (สีส้ม) อยู่เหนือเส้น Kijun (สีขาว) ซึ่งถือเป็นการ Retest สัญญาณว่ากราฟราคาของ EURUSD กำลังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ประกอบกับก้อนเมฆยังกลายเป็นสีเขียว ซึ่งเป็นการยืนยันแนวโน้มขาขึ้นในอนาคตนั่นเอง

อย่างไรก็ดี หากเส้นTenkan (สีส้ม) มีการเคลื่อนไหวอยู่ใต้เส้น Kijun (สีขาว) จะส่งผลให้กราฟราคาเกิดการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง แต่หากก้อนเมฆยังคงเป็นสีเขียวอยู่ อาจจะคาดการณ์ได้ว่าเกิดสัญญาณหลอกได้เช่นกันค่ะ เพราะกราฟราคาไม่ได้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับก้อนเมฆ ดังนั้น คุณน้าจะรอสัญญาณที่ชัดเจนก่อนถึงทำการเปิด Order และเมื่อราคาเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ จะเห็นได้ว่าจุดที่ 2. เส้น Tenkan (สีส้ม) อยู่ใต้เส้น Kijun (สีขาว) อีกทั้งก้อนเมฆยังกลายเป็นสีแดง นั่นแสดงให้เห็นว่ากราฟราคาของ EURUSD อยู่ในแนวโน้มขาลง ทำให้คุณน้าทำการเปิด Order Sell (วงกลมสีเหลือง)

7. VWAP Indicator

VWAP Indicator ย่อมาจาก Value Weighted Average Price Indicator คือ อินดิเคเตอร์ยอดนิยมสำหรับ Day Trader เพราะอินดิเคเตอร์ตัวนี้จะนำราคาของสินทรัพย์ ณ ช่วงเวลานั้น มาคำนวณกับปริมาณการซื้อขาย เพื่อสะท้อนให้เห็นแนวโน้มที่แท้จริงของตลาดในช่วงเวลานั้น ๆ ได้อย่างชัดเจนค่ะ

สรุปหลักการทำงานของ VWAP Indicator

  • ช่วยยืนยันแนวโน้มของราคา
  • ช่วยระบุแนวรับ-แนวต้าน
  • ช่วยระบุสัญญาณการซื้อขาย

ตัวอย่างการใช้งาน VWAP Indicator ใน TradingView

คุณน้าขอยกตัวอย่างการใช้ VWAP Indicator ใน TradingView ซึ่งจากกราฟราคา EURUSD จะเห็นได้ว่าราคาเกิดการทะลุเหนือเส้น VWAP (สีน้ำเงิน) ขึ้นไป นั่นแสดงว่าเป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจค่ะ ทำให้คุณน้าเลือกเปิด Order Buy (วงกลมสีเขียว) แต่หากราคาเกิดการทะลุลงใต้เส้น VWAP (สีน้ำเงิน) ลงไป นั่นแสดงให้เห็นว่าเป็นจุดขายที่น่าสนใจ ทำให้คุณน้าเลือกเปิด Order Sell (วงกลมสีเหลือง) แทนค่ะ


ข้อควรระวังสำหรับการใช้ Indicator ในตลาด Forex

จากที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่า อินดิเคเตอร์ที่คุณน้าได้หยิบยกมานั้นเป็นอินดิเคเตอร์ยอดนิยมขวัญใจเทรดเดอร์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าอินดิเคเตอร์แต่ละชนิดก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ดี ยังมีสิ่งที่คุณน้าอยากเน้นย้ำ ก็คือ อินดิเคเตอร์ทุกชนิดล้วนมีความเสี่ยงค่ะ เพราะการใช้อินดิเคเตอร์เพียงตัวเดียวไม่ได้การันตีได้ว่า จะสามารถวิเคราะห์แนวโน้มของราคาได้อย่างแม่นยำมากที่สุด เพราะยังมีข้อจำกัดและปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบโดยตรง ดังนั้น คุณน้าขอแนะนำว่า ควรใช้อินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิคชนิดอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยให้การเทรดของคุณมีประสิทธิภาพมากที่สุดค่ะ


⭐ คุณน้าแนะนำโบรกเกอร์คุณสมบัติเด่น!

การเลือกโบรกเกอร์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ สำหรับการเทรด Forex ค่ะ

เพราะโบรกเกอร์จะพัฒนาระบบและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การเทรดของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นให้ได้มากที่สุด

สำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มั่นใจว่า โบรกเกอร์ Forex แบบไหนดี?

คุณน้าได้รวบรวมการจัดอันดับของโบรกเกอร์ในทุกคุณสมบัติ เช่น สเปรดต่ำ, เทรดทอง หรือโบนัสฟรี


มือใหม่หัดเทรดที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี? คุณน้าได้รวบรวมเนื้อหาสำคัญที่ถือเป็นจุดเริ่มต้น สำหรับการเทรด Forex มาไว้ให้แล้วที่นี่!


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้ Indicator

อินดิเคเตอร์ คืออะไร?

อินดิเคเตอร์ หรือ Indicator คือ ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่จะมีส่วนสำคัญในการวิเคราะห์ตลาด เพื่อช่วยให้นักลงทุนหรือเทรดเดอร์สามารถระบุแนวโน้มของราคาได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น

7 Indicator ที่นิยมใช้งาน มีอะไรบ้าง?

คุณน้าขอแนะนำ 7 Indicator Forex ที่นิยมใช้งาน ได้แก่ Moving Average, Bollinger Bands, RSI, MACD, CCI, Ichimoku Cloud และ VWAP

ประเภทของอินดิเคเตอร์ มีอะไรบ้าง?

โดยปกติแล้ว อินดิเคเตอร์จะมีทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ Trend Indicators (อินดิเคเตอร์บอกแนวโน้ม), Volume Indicators (อินดิเคเตอร์วัดปริมาณการซื้อขาย), Volatility Indicators (อินดิเคเตอร์วัดความผันผวน) และ Momentum Indicators (อินดิเคเตอร์วัดโมเมนตัม)


สรุป Indicator คืออะไร แนะนำ 7 Indicator Forex ยอดนิยม

ก่อนจากกันในวันนี้ คุณน้าขอบอกว่าในโลกการลงทุนยังมีอินดิเคเตอร์ประเภทอื่นอีกมากมายที่เหมาะกับเทรดเดอร์ค่ะ แต่สิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ ก็คือ อินดิเคเตอร์จะถูกออกแบบการใช้งานในจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น สภาวะตลาด, กรอบเวลา หรือการจัดการความเสี่ยง ดังนั้น อย่าลืมใช้อินดิเคเตอร์หรือเครื่องมือทางเทคนิคชนิดอื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการส่งคำสั่งซื้อขาย ด้วยความปรารถนาดีจากทีมงานคุณน้าพาเทรดค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : TradingView


สำหรับใครที่สนใจอ่านรีวิวโบรกเกอร์ : Review Brokers

บทความในเรื่องการลงทุนที่น่าสนใจ : Investing

คลังความรู้จากคุณน้า : Knowledge

Picture of คุณน้า
คุณน้า
คุณน้าเป็นเทรดเดอร์ที่คลุกคลีอยู่ในตลาดต่าง ๆ ร่วม 10 ปี จึงอยากนำความรู้ที่มีมาแบ่งปันให้กับทุกคน
Recent Post
บทวิเคราะห์คู่เงิน AUDUSD 30 กรกฎาคม 2025
บทวิเคราะห์ AUDUSD วันที่ 30 กรกฎาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ AUDUSD ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

บทวิเคราะห์ทองคำ 29 กรกฎาคม 2025
บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 29 กรกฎาคม 2025

ในบทวิเคราะห์นี้ จะศึกษาภาพรวมปัจจัยพื้นฐานและภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำ จะมีจุดน่าเข้าซื้อหรือน่าขายจุดไหนบ้าง? บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันนี้มีคำตอบ!

บทวิเคราะห์คู่เงิน USDRUB 29 กรกฎาคม 2025
บทวิเคราะห์ USDRUB วันที่ 29 กรกฎาคม 2025

พบกับวิเคราะห์ USDRUB ที่สายเทรดสั้นห้ามพลาด การวิเคราะห์คู่เงิน Forex ดูแนวโน้มราคาล่าสุด สำหรับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค

ทางเว็บไซต์ คุณน้าพาเทรด
ได้มีการใช้คุกกี้เพื่อช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ของเราดียิ่งขึ้น


Privacy Policy